🇰🇭 ข้ามแดนเที่ยวนครวัด 2 วัน 1 คืน

เที่ยวนครวัด แล้วปิดท้ายด้วยคาสิโน ณ ประเทศกัมพูชา

Krit Kruaykitanon
3 min readOct 31, 2022
พระอาทิตย์ขึ้น นครวัด (Dawn at Angkor Wat)

วันที่ 1

09.00 — ถึงอรัญประเทศ ฝากรถที่ด่านคืนละ 100 บาท อาจจะมีถูกกว่านี้แล้วแต่เจ้าครับ

09.30 — เดินข้ามด่าน ด่านไทยไม่มีปัญหา แต่ถึงด่านกัมพูชาสำหรับชาวต่างชาติต้องข้ามด่านชั้น 2

ช่องว่างระหว่างพรมแดน

ณ วันที่ผมไปเป็นช่วงที่หลายประเทศเริ่มปลดล็อคแล้ว ซึ่งจริงๆ ตามที่อ่านมาในหลายรีวิว กัมพูชาก็ไม่ได้ต้องแสดงเอกสารวัคซีนอะไร แต่เจ้าหน้าที่ยังขอดูอยู่ เพื่อให้ราบรื่น แนะนำว่าเตรียมเอกสารเอาไว้จะดีที่สุด เพื่อลดความกังวล

อีกเรื่องคือ การเขียน immigration pass ห้ามคุยกับคนกัมพูชาเด็ดขาดเพราะเขาจะตีมึนแล้วเขียนให้เราแล้วเรียกเก็บเงิน 20 บาท จากเรา เพราะฉนั้นเขียนเอง

10.00 — ข้ามด่านเสร็จ จะมีคน Taxi จำนวนมากมาเสนอราคารถให้ ตอนแรกเริ่มเปิดราคาที่ 1,500 บาท ไปเสียมเรียบ ผมต่อลงมาได้ 1,000 บาทเพราะในรีวิวที่อ่านมาก็ประมาณนี้แล้วก็รับได้ที่ราคานี้ พยายามสื่อสารให้รู้เรื่องว่ามีเฉพาะเราใช่ไหมที่นั่งรถคันนี้ เพราะตอนขาไปของผมเขามีรับคนอื่นเพิ่มทำให้เสียเวลาการเดินทาง ดีลให้รู้เรื่องว่าส่งถึงโรงแรมที่เสียบเรียบเลย

ระหว่างทางก็จะมีแวะปั้มเข้าห้องน้ำให้ ถึงตรงนี้แนะนำว่าควรจะซื้อขนมติดไว้ในกระเป๋าเพราะปั้มที่นี่ไม่ได้มีของกินเล่นเหมือน 7–11 ที่ไทย

13.00 — เดินทางถึงเสียบเรียบ ถึงตรงนี้เขาจะให้เราต่อตุ๊กๆ เพื่อเข้าไปที่โรงแรมของเราฟรี

13.30 — check in แล้วก็สั่งมื้อเที่ยง

15.00 — เดินจากที่พักไปสำรวจตัวเมืองรอบๆ

16.30 — หลังจากเดินสำรวจเมืองแล้ว พบว่าเมืองไม่ค่อยมีอะไรที่น่าสนใจสำหรับเรา เลยตัดสินใจเรียก Tuk Tuk $18 ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ Phnom Bakheng ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในโซนนครวัดอยู่แล้ว ดังนั้นก่อนที่จะเข้าไป เราเลยไปซื้อตั๋ว Angkor Wat Pass สำหรับใช้ในวันถัดไปไว้ก่อนเลย จะได้ไม่ต้องมาซื้อใหม่ตอนเช้า

17.00 — เดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตก ตรงนี้เดินไม่ยากมาก 20 นาทีถึงยอด

18.00 — เดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางเราเจอเหมือนตลาดกลางคืนที่มี street food ขายอยู่เต็มจึงขอลงจากลดมาเพื่อมาลองอาหารที่นี่

อาหารสตรีท

อาหารที่นี่คล้ายกับอาหารไทยเลย แต่ว่าจะมีเมนูที่ไม่หลากหลายเท่าไทย แต่พวกข้าวผัด ผัดเส้น ต่างๆ ก็เหมือนกับไทย (เพราะใช้เครื่องปรุงชุดเดียวกันกับไทย)

วันที่ 2

04.00 — ตื่นตอนเช้า เพื่อนั่งรถ Tuk Tuk ไปที่ Angkor Wat ระหว่างอยู่บน Tuk Tuk เราต้มมาม่าไปกินบนรถเพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะมีเวลากินข้าวเช้าไหม

05.00 — Tuk Tuk จะมาส่งที่ปากทาง Angkor Wat แล้วจะจอดรอเรา เราก็เดินเข้าไปเพื่อไปที่จุดที่ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น แล้วเห็นวิวนครวัด ตรงนี้ถ้าตื่นเช้าต้องรีบไปหามุมก่อน ไม่งั้นจะถูกโดนบังแน่ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เท่าที่เห็นจะเป็นชาวยุโรปซึ่งจะสูงกว่าเราแน่ๆ ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาดก็ยอมตื่นเช้าหน่อย

มาถึงแล้ว

06.00 — หลังจากได้รูปที่พอใจเราเริ่มเดินไปที่ทางเข้าตัววัดซึ่งจะเปิดเวลา 6 โมงเช้า ตรงนี้เราเดินมาคนแรกๆ เพราะคนส่วนใหญ่ยังถ่ายรูปกันอยู่ แชะภาพหน้าวัดตรงๆ ซักรูปสองรูป จากนั้นก็เดินเข้าไปสำรวจวัดด้านใน

เราเดินจนทะลุมาอีกฝั่งซึ่งถ้าถ่ายรูปฉากหลังกับวัด เราจะได้รูปที่ไม่ย้อนแสง ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเดินมาถึง

จากนั้นก็ไปต่อคิวเพื่อขึ้นบันไดไปที่ยอดวัด และใช้เวลาอยู่สักพัก ตอนขึ้นไม่รู้สึกว่าสูง แต่ตอนลงนี่มีขาสั่นอยู่เหมือนกัน 5555

บริเวณรอบๆ วัดยังเป็นป่าที่มีการอนุรักษ์เอาไว้ ใครที่ชอบธรรมชาติผมแนะนำว่าให้เดินรอบๆ เพราะเป็นสวนป่าที่มีต้นไม้ใหญ่เยอะมาก ผมเป็นคนชอบดูนก และนกที่นี่เยอะมาก และเป็นหนึ่งในจุดดูนกที่หลายคนตั้งเป้าเอาไว้ เช่น นกแก๊ก และนกจับแมลงสีฟ้าชนิดต่างๆ ร้องตลอด รวมถึงมีเหยี่ยวบินผ่านมาให้เห็นตลอด

08.00 — ไปที่ Bayon Temple ตรงนี้เราใช้เวลาไม่นานมากเพราะมันไม่ได้ใหญ่มาก แต่บริเวณรอบๆ ก่อนที่จะเข้าไปจะเป็นคูคลองซึ่งเป็นการวางผังเมืองที่เจ๋งมากๆ

Bayon Temple

เราแวะทานเข้าเช้าตรงนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่เราสั่งแค่ข้าวผัดจานเดียว เพราะราคาโหดมาตก $8 แต่ก็พอทำให้หายหิว เพราะมาม่าตอนเช้าไม่ค่อยอิ่ม

09.00 — ไปที่ Ta Prohm Temple ที่เขาโฆษณาไว้ว่า Tomb Raider มาถ่ายทำที่นี่ ในบรรดาวัดทั้งหมด ผมชอบที่นี่นะ ผมว่ามันเจ๋งดี มีต้นไทรใหญ่ที่รากมันเรื่อยขึ้นมาจากตัววัด ที่ทำให้ดูเป็นวัดที่สร้างมานานมากๆ กว่าต้นไทรจะสูงได้ขนาดนี่

Ta Prohm Temple

ธรรมชาติในนี่ร่มรื่นมากจริงๆ เราไปช่วงปลายตุลาคม ไม่เจอฝนเลย อากาดีโดยเฉพาะในเขตนครวัดซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน UNESCO มีต้นไม้เยอะมาก ทำให้อากาศเย็นสบาย

นอกจากนี้ถ้าเราเดินเราจะได้ยินเสียงนกแก้วโมง นกแขกเต้า ร้องอยู่ตลอด แต่บอกไว้ก่อนว่าพวกมันเห็นได้ยากมาก เพราะมันอยู่บนยอดต้นไม้สูง แต่หาดีๆ เราจะเห็นมันหลายตัวทำรังอยู่ในโพรง

10.00 — เดินทางกลับที่พัก ถึงจุดนี้ ผมแนะนำว่าเราสามารถกลับไทยได้เลย เพราะ highlight นครวัดเราเก็บหมดแล้ว แต่ว่าผมใช้เวลาอีกวันที่เหลือในการพักผ่อนเดินชมเมืองจนเข้าใจวิถีชีวิตคนที่นี่

วันที่ 3 แถม

08.00 — เราจองรถบัสเดินทางกลับในราคาตกคนละ ฿350 เพื่อเดินทางกลับไปที่ด่าน Poi Pet ระหว่างทางก็จะจอดให้พักเหมือนรถบัสที่ไทย

12.00 — ถึงด่านประมาณเที่ยง เราเริ่มหิวเลยตัดสินใจกินข้าวที่ด่าน ตรง Poi Pet นี่หลายร้านจะรับเงินไทยด้วย และเผลอๆ จะพูดไทย เพราะว่าตรงนี้เป็นแหล่ง Casino อย่างแท้จริง คนไทยที่ข้ามด่านมา ก็มาเล่น Casino นี่แหละ ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวนครวัดแบบเราเท่าไร จน Casino แถวนี้ยึดสกุลเงินบาทเป็นหลัก

คำเตือน: หลังจากนี้ไม่ได้เป็นการชักชวน แค่เป็นการเล่าประสบการณ์ให้ฟัง การพนันอาจทำให้คุณหมดตัวได้ และการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายโปรดใช้วิจารณญาณ

13.00 — ผมอยากลองเข้าไปสัมผัสประสบการณ์เลยเข้าไป Casino ที่หนึ่งและลองไปยืนดูหลายๆ โต๊ะ เกมส์ที่ hot ที่สุดน่าจะหนีไม่พ้น Bacara ครับ

ตอนแรกผมก็แค่ยืนดู แต่ตอนหลังเลยไป ลองลงไปขั้นต่ำตาละ 100 ให้พอได้ลุ้นเหมือนเขาบ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้กำไล และก็ไม่ได้ขาดทุนก็มีแพ้ชนะสลับกันไป

แล้วก็ลองไปเล่นโต๊ะอื่นๆ เกมส์ที่ผมไปเล่นได้แก้ Pok Deng, Bacara, Nui Nui Poker, Poker (ที่ไม่ใช่ Texas Hold’em), Black Jack เป็นต้น ซึ่งแต่ละโต๊ะก็จะมีเซียนคนไทยอยู่ ผมก็ไปนั่งแล้วก็ดูแล้วก็เล่นให้เขาสอนเหมือนกัน 555555

สุดท้ายผมได้มา ฿2,000 จาก Poker ได้ flush + pair มาถือว่าเป็น Jackpot ย่อยๆ หลังจากนั้นผมก็เล่นเกมส์อื่นๆ แล้วก็ไม่ได้เสีย ไม่ได้ได้เพิ่มแต่อย่างใด

ปิดท้ายด้วยการโยก slot machine ซึ่งเป็นการพนันที่โอกาสชนะต่ำที่สุดเพราะเป็น computer อยู่ด้านหลัง

ระหว่างเล่นก็จะมีการ serve น้ำอัดลม กาแฟ ต่างๆ ฟรี ครับ เราก็พอดื่มให้หายกระหายกันบ้าง

16.00 — เดินทางข้ามด่านกลับ ถึงจุดนี่ตรง immigration pass ฝั่งกัมพูชาเขาอาจจะไถตังเราได้ครับ เรามีสิทธิ์ในการปฏิเสธการเก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ

คำแนะนำ

  • ที่นี่ 80% ของร้านอาหารทำช้ามาก โดยเฉพาะพวกอาหารตามสั่งรอเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าเจอร้านคนเยอะๆ อย่า assume ว่าอร่อย ให้ดูด้วยว่าลูกค้านั่งรอนานแค่ไหน
  • เงินไทยใช้ได้เฉพาะ Poi Pet และแนะนำว่าให้แลกเป็น USD เป็นหลัก เพราะที่นี่ทุกที่จะรับ USD ทั้งหมด แม้แต่ในร้านสะดวกซื้อป้ายราคาก็เป็น USD อาจจะแลก KHR มาสัก 1,000 ให้พอมีแบงก์ย่อย
  • ถ้าเทียบราคาแล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ถูกกว่า แต่ผมว่า Tuk Tuk ที่นี่ไม่ได้แพงมากครับ เราไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอด หรือว่าเส้นทางใดๆ ให้พี่คนขับนำทางให้ ที่ผมนั่งมีบริการน้ำดื่มเย็นๆ ฟรีด้วยครับ ไม่ต้องซื้อน้ำไปเอง แล้วก็แบกเอง
  • พกมาม่าคัพไปครับ ได้ใช้แน่นอนโดยเฉพาะเช้าวันที่ไปเที่ยวนครวัด
  • ถ้าอยากแวะคาสิโนคิดเยอะๆ นะครับ ผมแค่โชคดีเฉยๆ
  • สำหรับผมจริงๆ 3 วัน 2 คนกำลังดีครับ แต่ถ้าอยากใช้เวลา 2 วัน 1 คืนก็เก็บหมดทุก highlight ครับ

--

--

Krit Kruaykitanon

👨‍💻 Software Engineer | 🐦 Bird Person | 🗺️ Traveller